วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โรคเก๊าท์ หรือ โรคข้อ โรคแผลกระเพาะอาหาร-ลำไส้เล็ก


โรคเก๊าท์  หรือ โรคข้อ

โรคเกาต์ เป็นโรคที่เกิดจากระดับกรดยูริก ในเลือดสูงขึ้นทำให้เกิดการอักเสบของข้อเนื่องจากมีการตกผลึกของ เกลือยูริก บริเวณข้อและเอ็นหากเป็นเรื้อรังจะทำให้ข้อผิดรูปและเสียหน้าที่ในการทำงาน ในรายที่เรื้อรังการเกาะของเกลือโมโนโซเดียมยูเรต จะทำให้เกิดก้อนที่เรียกว่า Tophi นอกจากนั้นยังทำให้หน้าที่ของไตเสื่อมและเกิดโรคนิ่วที่ไตด้วย โรคเกาต์จะหมายถึงภาวะที่มีการเกาะของยูริกที่ข้อทำให้เกิดการอักเสบ มีอาการปวด บวมแดงร้อน ผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์อาจจะมีกรดยูริกในเลือดสูงหรือปกติก็ได้ และผู้ที่มีกรดยูริกในเลือดสูงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคเกาต์เสมอไป โรคเกาต์เป็นในผู้ชายมากว่าผู้หญิง 9 เท่าและมักเป็นวัยกลางคนขึ้นไป ส่วนผู้หญิงมักเป็นหลังจากหมดประจำเดือน

อาการ : สาเหตุจากเก๊าท์/ปวดข้อมาก สาเหตุหลังจากกรดยูริคสูงไปเกาะตามข้อให้บวมแข็งเจ็บขยับไม่ได้
ปฏิกิริยาตอบรับ : ปวดและบวมมากขึ้น ฉี่สีเข้มขึ้น ถ้าอาการรุนแรงให้ใช้ร่วมกับยาแก้ปวด หรือยาฉีด
การดูแลสุขภาพ : ทานเนื้อให้น้อยลง และเน้นการทานปลา ผักและผลไม้ให้มากขึ้น งดการดื่มสุราควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี

โรคแผลกระเพาะอาหาร-ลำไส้เล็ก

โรคกระเพาะเป็นโรคที่พบได้บ่อยโรคหนึ่ง แต่อุบัติการของโรคนี้ในประเทศไทยยังไม่มีรายงานจำนวนที่แน่นอน โรคนี้พบได้ประมาณ 10% ของประชากรทั่วไป และพบได้ทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่จะมีอาการเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง

โรคกระเพาะตามความหมายของแพทย์ หมายถึง แผลที่กระเพาะอาหาร (gastric ulcer) หรือแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น (duodenal ulcer) ซึ่งมีรายงานจากโรงพยาบาลศิริราชว่าแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นพบมากกว่าแผลที่กระเพาะอาหารประมาณ 2 เท่า

แผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นพบบ่อยในวัยหนุ่มสาว โดยอายุเฉลี่ยของผู้เป็นโรคนี้คือ 35 ปี และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 4 เท่า ส่วนแผลที่กระเพาะอาหารมักพบในวัยกลางคนขึ้นไป โดยอายุเฉลี่ยของผู้ที่เป็นโรคนี้คือ 42 ปี พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 3 เท่า

สาเหตุ

แผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น เกิดจากการหลั่งกรดในกระเพาะมากกว่าปกติ ซึ่งทำให้ระคายเคืองต่อเยื่อบุผิวของลำไส้เล็กส่วนต้น เกิดเป็นแผลขึ้นมา โรคนี้พบมากในคนที่เคร่งเครียดกับการงาน รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา วิตกกังวล และคิดมาก นอกจากนี้ผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคไขข้ออักเสบ ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรัง และโรคตับอักเสบเรื้อรัง อาจจะเป็นแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นได้มาก

แผลที่กระเพาะอาหารเกิดจากความต้านทานต่อกรดของเยื่อบุกระเพาะอาหารเสื่อมลง แต่ไม่มีการหลั่งกรดในกระเพาะอาการมากกว่าปกติ อาจมีสาเหตุมาจากยา เช่น แอสไพริน (aspirin) อินโดเมธาซิน (indomethacin) หรือเกิดจากน้ำดีขย้อนจากลำไส้เล็กขึ้นมาที่กระเพาะอาหารก็ได้ นอกจากนี้อาจพบร่วมกับโรคอื่นๆ เช่น โรคปอด โรคไต หรือโรคมะเร็ง

อาการ

แผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่จะปวดบริเวณกลางท้อง ค่อนไปทางกระเพาะอาหาร มักจะปวดเป็นพักๆ ร้าวไปรอบเอว อาการปวดท้องจะเกิดขึ้นภายหลังรับประทานอาหาร 2-3 ชั่วโมง หรือขณะท้องว่าง ผู้ป่วยจะปวดท้องในตอนดึก ทำให้นอนไม่หลับ และจะรับประทานอาหารบ่อยๆ ทำให้น้ำหนักร่างกายเพิ่มขึ้น อาการแทรกซ้อนที่พบร่วมด้วยคือ ผู้ป่วยจะมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดโลหิตจาง ขาดเหล็ก และความดันโลหิตต่ำ

แผลที่กระเพาะอาหาร ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้อง และอาจมีเลือดออกในกระเพาะ (สังเกตได้จากอุจจาระที่มีสีคล้ำ) อาการปวดจะเกิดขึ้นหลังจากรับประทานอาหาร 30-60 นาที และจะปวดอยู่นาน 60-90 นาที ผู้ป่วยจะมีอาการปวดในขณะที่รับประทานอาหาร เนื่องจากอาหารที่รับประทานเข้าไปจะเป็นผลให้เกิดการพองตัวบริเวณที่มีแผลและมีการหลั่งกรดออกมา ทำให้ผู้ป่วยหยุดรับประทานอาหาร น้ำหนักตัวลดลง ความต้านทานโรคลดลง ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะผอมมาก

อาการ : ปวดท้องเวลาหิว หรืออิ่ม เบื่ออาหาร ท้องอืด ลมขึ้นจุกเสียด ร้อนที่หน้าอก
ปฏิกิริยาตอบรับ : กระเพาะอืดแน่น มีลมแน่น ควรทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำพลูคาว ให้สม่ำเสมอ
การดูแลสุขภาพ : งดอาหารรสจัด ทานอาหารให้เป็นเวลา ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ลดภาวะที่จะทำให้เกิดความเครีย พักผ่อนให้เพียงพอ

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โรคเบาหวาน โรคไต


โรคเบาหวาน

เบาหวาน เป็นความผิดปกติของร่างกายที่มี  การผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ อันส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกิน โรคนี้มีความรุนแรงสืบเนื่องมาจากการที่ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลได้อย่างเหมาะสม โดยปกติน้ำตาลจะเข้าสู่เซลล์ร่างกายเพื่อใช้เป็นพลังงานภายใต้การควบคุมของฮอร์โมนอินซูลิน ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานจะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลที่เกิดขึ้นทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ในระยะยาวจะมีผลในการทำลายหลอดเลือด ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่สภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

ปี 2550 พบผู้ป่วยเบาหวานแล้วถึง 246 ล้านคน โดยผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลก 4 ใน 5 เป็นชาวเอเชีย

เบาหวาน สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากภูมิต้านทานของร่างกายทำลายเซลล์ที่สร้างอินซูลินในตับอ่อน ทำให้ร่างกายหยุดการสร้างอินซูลิน ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 จึงจำเป็นต้องฉีดอินซูลิน เพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือดระยะยาว
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบชัดเจน แต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม นอกจากนี้ ยังมีความสัมพันธ์กับภาวะน้ำหนักตัวมาก การขาดการออกกำลังกาย และวัยที่เพิ่มขึ้น เซลล์ของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ยังคงมีการสร้างอินซูลิน แต่ทำงานไม่เป็นปกติเนื่องจากมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้เซลล์ที่สร้างอินซูลินค่อยๆถูกทำลายไป บางคนเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนโดยไม่รู้ตัว และต้องการยาในการรับประทาน และบางรายต้องใช้อินซูลินชนิดฉีด เพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือด

อาการ : อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เวียนหัวบ่อย เหนื่อยง่าย กระหายน้ำ ฉี่บ่อย หิวบ่อย มีแผลจะหายช้า ในรายที่รุนแรงตามตัว หรือถูกตัดขา
ปฏิกิริยาตอบรับ : ระดับน้ำตาลขึ้นชั่วระยะ แขนขาบวมเล็กน้อย คนที่มีอาการคันอยู่แล้ว ก็คันมากขึ้น ก่อนจะดีหลัง 7-15 วัน จะดีขึ้นผลค่อนข้างดีมาก ถ้าแพ้มากอาจปวดข้อ ชาขา ถ้าเกิดจากไม่สามารถสร้างอินซูลินได้ ต้องทานอย่างต่อเนื่อง 3-6 เดือน อาการจะดีขึ้น
การดูแลสุขภาพ : ออกกำลังกาย ควบคุมน้ำตาล ได้ผลดีขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับการทานโปรตีน เช่น ทานผักและผลไม้มากขึ้น ลดอาหาร และอาหารทะเล หลีกเลี่ยงทุเรียน


โรคไต

โรคไต หมายถึง โรคชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติของพยาธิสภาพของไตในการทำงานเพื่อขับของเสียออกจากร่างกายและรักษาความสมดุลของเกลือและน้ำในร่างกายคนเรา โรคไตมีหลายประเภทดังนี้
  • โรคไตวายฉับพลันจากเหตุต่างๆ
  • โรคไตวายเรื้อรังเกิดตามหลังโรคเบาหวาน โรคไตอักเสบ โรคความดันโลหิตสูง โรคเก๊าท์
  • โรคไตอักเสบเนโฟรติก
  • โรคไตอักเสบจากภาวะภูมิคุ้มกันสับสน (โรค เอส.แอล.อี.)
  • โรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
  • โรคถุงน้ำที่ไต (Polycystic Kidney Disease)
สาเหตุ
  • เป็นมาแต่กำเนิด (Congenital) เช่นมีไตข้างเดียว หรือไตมีขนาดไม่เท่ากัน โรคไตเป็นถุงน้ำ (Polycystic kidney disease) ซึ่งเป็น กรรมพันธุ์ด้วย เป็นต้น
  • เกิดจากการอักเสบ (Inflammation) เช่นโรคของกลุ่มเลือดฝอยของไตอักเสบ (glomerulonephritis)
  • เกิดจากการติดเชื้อ (Infection) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเป็นส่วนใหญ่ เช่นกรวยไตอักเสบ ไตเป็นหนอง กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (จากเชื้อ โรค) เป็นต้น
  • เกิดจากการอุดตัน (Obstruction) เช่นจากนิ่ว ต่อมลูกหมากโต มะเร็งมดลูกไปกดท่อไต เป็นต้น
  • เนื้องอกของไต ซึ่งมีได้หลายชนิด
อาการ : ฉี่บ่อย ตัวบวม อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดหลัง
ปฏิกิริยาตอบรับ : อาจจะลดระดับโปรตีนในเลือดในช่วงแรก บวมตามใบหน้าและแขนขา ปวดเมื่อยเหนื่อยมากขึ้นเล็กน้อย
การดูแลสุขภาพ : ควบคุมสภาพร่างกายให้ปกติ เลี่ยงงานหนัก หรือการออกกำลังที่หักโหมเกินไป และรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพลูคาว ให้สม่ำเสมอ

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

อาการปฏิกิริยาตอบโต้หลังจากทานสมุนไพรพลูคาว


อาการปฏิกิริยาตอบโต้หลังจากทานสมุนไพรพลูคาว

อาการปฏิกิริยาตอบโต้หลังจากทานสมุนไพรพลูคาวอาจเกิดขึ้นหลังจากการรับประทานเกือบทุกคน อาการมีจากน้อยไปหามากคือ 3-7 วัน ถึงรุนแรง 2-3 สัปดาห์ อาการที่เกิดขึ้น เช่น อาการง่วงนอน, สดชื่น กระปรี้กระเปร่า, ปัสสาวะบ่อยๆ ในช่วงแรก มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง มีน้ำมูกมาก ครั่นเนื้อ ครั่นตัวหนาวๆ ร้อนๆ ปวดศีรษะเหมือนจะเป็นไข้ เจ็บปวดมากกว่าเดิม กรณีมีปัญหาระบบไขข้อหรือเสริมอวัยวะ ให้ทานแต่น้อยๆ จนอาการดีขึ้น แล้วเริ่มทานปริมาณเพิ่มขึ้น จนอาการหายไปเองในช่วง 7-15 วัน แล้วแต่ชนิดของโรค
  1. สมุนไพรพลูคาวกับไวรัส
    โรคที่เกิดจากวรัสแบ่งเป็นการติดเชื้อได้ 3 แบบ คือ
    1. โรคที่เกิดจากไวรัส ที่มีอาการเฉียบพลัน เช่น ไข้ทรพิษ, หัด หัดเยอรมัน, หวัด, ตาอักเสบ เป็นต้น
    2. โรคที่เกิดจากไวรัส ที่มีอาการเป็นๆ หายๆ เช่น เริม, งูสวัด เป็นต้น
    3. โรคที่เกิดจากไวรัส ที่มีอาการเรื้อรัง เช่น เอดส์, โรคพิษสุนัขบ้า เป็นต้น
    สมุนไพรพลูคาว สามารถยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส (POLIOVIRUS AND COXSACKLEVIRUS)

    โรคที่เกิดจากไวรัสในไก่ โรคหลอดลมอักเสบชนิดเฉียบพลัน และชนิดเรื้อรัง เช่น หวัด, ไข้หวัดใหญ่, คางทูม, ต่อมทอนซิลอักเสบ และปอดอักเสบในเด็ก
  2. สมุนไพรพลูคาวกับเชื้อรา
    รา เป็นจุลชีพชนิดหนึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ เซลล์เดียว หรือยีสต์ (UNICELLULAR FUNGI OR YEAST) และหลายเซลล์ หรือ โมลด์ (FLAMENTOUS FUNGI OR MOLD) ราเป็นสาเหตุของโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังสมุนไพรพลูคาว สามารถรักษากลาก, เกลื้อน, สังคัง, ฮ่องกงฟุต, สเก็ดเงิน, โรคปอดอักเสบ, เยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อรา CRYPTOCOCCUS NEOFORMANS
  3. สมุนไพรพลูคาวกับแบคทีเรีย
    โรคที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่หลากหลายต่างกัน ตามชนิดของแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของดรค และขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิดจากการติดเชื้อ

    สมุนไพรพลูคาวสามารถป้องกัน อาการท้องเดิน, ท้องเสีย, ทางเดินปัสสาวะอักเสบ, การติดเชื้อทางเดินหายใจ, ฝี, โรคทางเดินอาหาร, โรคปริทันต์, โรคในระบบสืบพันธุ์, โรคติดเชื้อในช่องปาก, สิว, โรคผิวหนัง, กลาก ขี้เรื้อนกวาง

วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทยคนใหม่

โดกุดามิ  เอเชีย
บริษัท โดกุดามิ เอเซีย จำกัด เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท โพรแลค (ประเทศไทย) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปจากพืชและสมุนไพรไทย โดยใช้กระบวนการผลิตและแปรรูปในระดับโมเลกุล ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคร้ายต่างๆ มีผลงานเป็นที่ยอมรับทั่วประเทศไทย

นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทยคนใหม่


 
เปิดวิชั่น“อัศวิน วัฒนปราโมทย์”นายกสมาคมอุตฯขายตรงไทยคนใหม่
สำนักข่าวอะลามี่ “ อัศวิน วัฒนปราโมทย์”ผู้บริหารโพรแลค ฯ ธุรกิจขายตรงของคนไทยที่ไปโตในต่างประเทศ นั่งนายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทยคนใหม่  ลั่นจะนำพาองค์กรและธุรกิจขายตรง สู่ความเชื่อมั่น และเป็นที่ยอมรับของสังคม
                                                  
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555  ที่ผ่านมา ณ.โรงแรมดิอิมเมอรัล กรุงเทพฯ  ได้จัดให้มีพิธีส่งมอบตำแหน่งนายกสมาคมคนใหม่ จาก นางสาว ศิริพร ธรรมภักดี  อดีตนายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย โดยส่งมอบต่อให้กับ นายอัศวิน วัฒนปราโมทย์  ประธานกรรมการ บริษัท โพรแลค อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น ท่ามกลางความยินดีจากสมาชิกสมาคมฯ รวมถึง นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา ผู้อำนวยการขายตรง และ ผู้แทนจากภาครัฐ
อัศวิน กล่าวภายหลังจากรับตำแหน่งโดยระบุจากนี้ไปพยายามทำให้สมาคมอุตสาหกรรมขายตรง ไทย เป็นที่พึ่งได้ อีกทั้งอยากให้ทั้งภาครัฐและเอกชน ช่วยกันสนับสนุน โดยขอให้ภาครัฐเข้ามาดูแลและกำกับ ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยเร็วและชัดเจน คือ “การถูกหลอกลวงให้ลดน้อยลงไป”
นอกจากนี้อยากให้ผู้ที่ขายตรง มีความน่าเชื่อถือ และเดินเข้ามาสู่ธุรกิจนี้อย่างสง่างามและทำธุรกิจด้วยความเชื่อมั่น และดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการมีธรรมาภิบาลต่อผู้บริโภค และควรมีความซื่อตรงต่อผู้บริโภค
“ในฐานะผู้บริหารองค์กร จะทำการจัดตั้งคณะกรรมการของสมาคมฯขึ้นมาเพื่อช่วยกันบริหารจัดการองค์กร และนำไปปรับปรุงทำให้ธุรกิจขายตรงเจริญก้าวหน้า อย่างยั่งยืนในอนาคต และทำให้วงการขายตรงในประเทศมีความเชื่อถือ” อัศวิน กล่าวและว่า
นอกจากสมาคมฯจะต้องเป็นองค์กรที่สร้างความร่วมมือระหว่างบริษัทขายตรงใน ประเทศ ให้เปิดดำเนินการอย่างถูกต้องเพื่อให้สามารถประสานงานกับหน่วยงานราชการใน การให้การสนับสนุนและส่งเสริมในการดำเนินธุรกิจ และควบคุมกลุ่มผู้ประกอบการที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดใหม่ จะต้องมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยกรรมการต้องมีทักษะในการบริหารจัดการ นำความรู้ความสามารถมาปรับปรุงและพัฒนาเครือข่าย เป็นคนที่มีคุณภาพ
อีกทั้งจะต้องมีประวัติในการจ่ายเงิน ในการซื้อขายสินค้าจ่ายได้ถูกต้องและตรงตามเวลากำหนดและที่สำคัญการปฏิบัติ ตามกฎหมายและเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด รวมไปถึงจ่ายภาษีคืนรัฐอย่างถูกต้องและตรงไปตรงมา


อัศวิน ยังได้เรียกร้องและขอความร่วมมือจากหน่วยงานของภาครัฐช่วยกันปราบปรามประเภท ธุรกิจเลียนแบบธุรกิจขายตรง ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจขายตรงโดยรวมถูกบั่นทอนความเชื่อถือลง เพื่อยกระดับให้ธุรกิจขายตรงมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น
ด้าน สมบัติ ไพบูลศิริลาภ รองนายกสมาคมผู้ ประกอบการการค้าไทย – สากล กล่าวแสดงความยินดีกับนายกสมาคมฯคนใหม่ โดยกล่าวว่า ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย ที่ได้ดำเนินกิจกรรรม เพื่อวงการธุรกิจขายตรงให้ก้าวสู่ความสำเร็จจนกระทั่งมีนายกฯคนที่สามแล้ว
“ กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสมาคมขายตรงทั้ง4 สมาคมฯ จะได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาการค้าสู่อาเซียน+6  และยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อให้เข้าสู่นานาชาติและตลาดโลกต่อไปในอนาคต” สมบัติ กล่าว
อัศวิน วัฒนปราโมทย์ ในวัย 63 ปี เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2492  เป็นคนกรุงเทพฯ จบการศึกษาปริญญาโทบริหารธุรกิจ เคยเป็นวิทยากรและอาจารย์สอนพิเศษ วิชาการตลาดระหว่างประเทศและอบรมนักศึกษาในการจัดตั้งบริษัทจำลอง ในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่เป็น ผู้จัดการฝ่ายบริหารการตลาด บริษัทในเครือสหพัฒน์ฯ
เส้นทางธุรกิจของ อัสวิน  เริ่มจากด้านการตลาด การขาย การบริหารการตลาด และเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการค้าข้าวไทย เคยดำรงตำแหน่งคณะกรรมการกำหนดราคาข้าวสมาคมหอการค้าแห่งประเทศไทย กรรมการในสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
อัศวิน ยังเคยเป็นผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ชั้นนำของประเทศหลายฉบับ นอกจากนี้ยังเคยเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษของหนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น และ นสพ.ในประเทศเยอรมัน และอีกหลายสำนักข่าว ก่อนจะมาทำงานด้านการตลาดในปี 2532 และไม่ได้หวนกลับไปทำงานในวงการหนังสือพิมพ์ อีกจนปัจจุบัน
อัศวิน” ได้จัดตั้ง บริษัทผลิตสมุนไพรในจังหวัดลำพูน เมื่อปี 2546 ภายใต้ บริษัท นอร์ทเทอร์น โพรไบโอติค จำกัด เป็นโรงงานผลิตไวน์พลูคาวแห่งแรกของโลก และก่อตั้ง บริษัทโพรแลค (ประเทศไทย) จำกัด ทำหน้าที่การตลาดต่างประเทศ ต่อมาเปลี่ยนมาทำหน้าที่บริษัทผู้ผลิตและส่งออก
เมื่อปี 2551ได้จัดตั้ง บริษัท โดกุดามิ เอเชีย จำกัด ทำหน้าที่จัดจำหน่ายในประเทศไทย ในระบบขายตรง จนถึงปัจจุบัน  และในปี 2553 ได้จัดตั้ง บริษัท โพรแลค อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น ที่ บริติชเวอร์จิ้น ไอร์แลนด์ ก่อนจะนำพาบริษัท เข้าสู่ ตลาดหลักทรัพย์ ที่ นครแฟร้งค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน พร้อมกันนี้ได้เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ ฮ่องกง (Hang Seng) และจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายหลังจากได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI.ต่อไป

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

บริษัท โดกุดามิ เอเซีย จำกัด


              บริษัท  โดกุดามิ  เอเชีย  จำกัด  เป็นหนึ่งในกลุ่ม  บริษัท โพรแลค (ประเทศไทย) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปจากพืชและสมุนไพรไทย โดยใช้กระบวนการผลิตและแปรรูปในระดับโมเลกุล ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุดของบริษัท ในเวลานี้คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดกุดามิ ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคร้ายต่างๆ มีผลงานเป็นที่ยอมรับทั่วประเทศไทย ไม่ต้องหมดหวังกับชีวิต เพราะโรคร้ายที่รักษาไม่ได้ แม้แต่โรคเกี่ยวกับพันธุกรรม และยังมีแชมพูสระผมเพื่อป้องกันและขจัดไรคน (ไรขน)ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผมหลุดร่วงและคันศรีษะตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีแฮร์โกร์ว ผลิตภัณฑ์เสริมสร้างเส้นผมใหม่ ในชุดของ โดกุดามิ ปัญหาของผมและหนังศรีษะไม่ใช่เรื่องของกรรมพันธุ์อีกต่อไปแล้ว เพราะ วันนี้ สามารถพิสูจน์ได้ว่า มีเชื้อรา และปรสิต ตัวเล็กๆที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าแฝงอยู่


ผลิตภัณฑ์ของที่ผลิตโดยบริษัท โพรแลค (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้แบรนด์สินค้า โดกุดามิ  มีงานวิจัยรองรับในเรื่องของสารสำคัญ  แอนตี้อ๊อคซิแดนซ์ โดยคณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับบริษัท โพรแลค (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ชีวิตของคนไทยยังมีความหวังในการเอาชนะโรคร้ายได้


ผลิตภัณฑ์ ของบริษัทฯ มีหลายชนิดที่ช่วยให้สุขภาพชีวิตของมนุษย์ สัตว์ พืช และสิ่งแวดล้อม ดีขึ้น ไม่ก่อปัญหาโรคร้อนและทำลายสิ่งแวดล้อม ผลิตเพื่อสุขภาพทุกชนิด ปลอดสารเคมี ตั้งแต่การปลูกโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพที่ผลิตเอง ชีวภัณฑ์ปรับปรุงบำรุงดินจนถึงระบบการเก็บเกี่ยว และการแปรรูป ดำเนินการเองทั้งหมด เพื่อความมั่นใจในประสิทธิภาพว่าปลอดภัยอย่างแท้จริง








     



ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์โดกุดามิเอเซีย





สมุนไพรพลูคาว


สมุนไพรพลูคาว


       "โดคุดามิ" หรือ "พลูคาว" นอกจากใช้ได้ดีในผู้ป่วยโรคมะเร็งแล้ว ยังพบว่าสามารถใช้ได้ผลในผู้ป่วย โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน อัมพาต รักษาแผลเรื้อรังซึ่งสามารถใช้ทาแผลได้ และผลในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคร้ายต่างๆ จะช่วยในการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งผลการทดลองในห้องปฎิบัติการพบว่าสามารถทำลายเชื้อ HIV-1(โรคเอดส์) เชื้อรา และแบคทีเรียหลายชนิดอีกด้วย 

         สำหรับในตำราไทยโบราณ ใช้ใบพลูคาวแก้กามโรค หนองใน เข้าข้อออกดอก เป็นแผลเปื่อยพุพอง ทำให้น้ำเหลืองแห้ง แก้โรคผิวหนัง แก้พิษแมลงป่อง พอกฝี ซึ่งชาวเหนือเชื่อว่าใบขับพยาธิได้ ส่วนในตำรายาจีน พลูคาวทั้งต้นมีสรรพคุณขับปัสสาวะ รักษาอาการอักเสบในทางเดินปัสสาวะ ระงับเชื้อโรคหลายชนิด รวมทั้งยังมีรายงานระบุถึงการใช้พลูคาวในการรักษาโรคเอดส์ โดยใช้ร่วมกับสมุนไพรตัวอื่นๆ ตลอดจนใช้ยับยั้งการเติบโตของเชื้อไวรัสเริม ไวรัสไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น 


        พลูคาว.มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Houttuynia cordata Thunb. จัดอยู่ในวงศ์ (family) Saururaceae เป็นพันธุ์ไม้ล้มลุกอายุหลายปี พบได้ทั่วไปในทวีปเอเชียตั้งแต่แถบเทือกเขาหิมาลัยไปจนถึงเวียดนาม รวมทั้งไทยและญี่ปุ่น พลูคาวจะเป็นพันธุ์ไม้ที่รู้จักกันดีของทางภาคเหนือของไทย ซึ่งมีชื่อเรียกกันว่า  ผักคาวตอง (เชียงใหม่), ผักก้านตอง, ผักเข้าตอง, พลูแก, พลูคาว (กลาง), ผักคาวทอง (อุดรธาน-อีสาน), อื้อซิงเฉ่า (จีนกลาง), หื่อแชเช่า (จีนแต้จิ๋ว) มักขึ้นเองตามธรรมชาติ พบตามริมห้วย ลำธาร และที่ชื้นแฉะริมน้ำ หรือตามใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีความชื้นสูง มีมากทางภาคเหนือของประเทศไทย เป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกันกับพลู ใบเดี่ยว เรียงสลับเป็นรูปหัวใจ แต่มีลักษณะแตกต่างกันที่ใต้ใบจะมีสีแดงตั้งแต่อ่อนๆ ไปจนถึงแดงเข้ม เมื่อนำมาใส่มือขยี้เพียงเบาๆ จะได้กลิ่นฉุนคล้ายคาวปลาออกมาอย่างรุนแรง ส่วนลำต้นทอดไปตามดิน รากแตกตามข้อ ชาวบ้านภาคเหนือและภาคอีสานนิยมรับประทานพลูคาวเป็นผักสด โดยแกล้มกับน้ำพริก ลาบหมู ลาบเนื้อ ก้อย ช่วยดับกลิ่นคาว สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายผู้ป่วยได้สูงขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในรักษาได้มากขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับการรักษาด้วยวิธีรังสีรักษา ส่งผลให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นและยืดอายุของผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามได้นานขึ้น


        เมื่อนำมาตรวจดูผลทางเภสัชวิทยา (จากทดลองในห้องปฏิบัติการ) พบว่า พลูคาวมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์, มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เนื่องจากมีสารเควซิติน (Quercetin) ซึ่งมีผลขยายหลอดเลือดฝอย ทำให้การไหลเวียนของเลือดและปัสสาวะเพิ่มขึ้น และมีฤทธิ์อื่น ๆ ได้แก่ ระงับปวด ห้ามเลือด เร่งการเจริญของเซลล์ ควบคุมปริมาณของเหลวในร่างกาย มีผลระงับอาการไอ แต่ไม่มีฤทธิ์ขับเสมหะ และระงับอาการหอบ


         นอกจากนั้น ยังมีรายงานวิจัยระบุว่า สีแดงใต้ใบของพลูคาวมีสารช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย และต้านทานเนื้องอก พร้อมกับไปขับพิษที่จะเป็นสารก่อมะเร็งออกจากร่างกาย แต่สารนี้อาจจะมีคุณภาพไม่คงทนหรือไม่คงที่ อีกทั้งยังไม่พบรายงานการศึกษาวิจัยทางคลินิกเกี่ยวกับคุณสมบัติต้านมะเร็งของพลูคาวอย่างเป็นทางการ ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ยังต้องมีการศึกษาวิจัยที่ชัดเจนต่อเนื่องต่อไปอีก


          ปัจจุบัน พลูคาวหรือคาวตองได้ถูกนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชื่อว่า "โดคุดามิ" โดย  บริษัท  โพรแลคประเทศไทย  จำกัด ซึ่งมี นพ.สมทรง รักษ์เผ่า อดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค(กรมควบคุมโรคติดต่อ) และอดีตอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการรับรองโดยองค์การอาหารและยา (อย.) มีเลขทะเบียนผลิตภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง " โดคุดามิ" นี้ได้ถูกส่งออกขายไปยังตลาดต่างประเทศ โดยมีตลาดใหญ่ ได้แก่ อเมริกา และแอฟริกา 


         สรรพคุณทางเภสัชวิทยาของพลูคาว  คือ สร้างภูมค้มกันกระตุ้นการแบ่งตัวของเม็ดเลือดขาวและทำงานได้ดีขึ้น *ทำลายเซลล์มะเร็งเพาะเลี้ยงทั่วไป 5 ชนิด ; ปอด, สมอง, เนื้อร้าย, รังไข่, ลำไส้ใหญ่, เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว 5 ชนิด li210, u937, k526, raja, p3 hr 1 *ฆ่าเชื้อไวรัส ชนิด HIV-1, HIV1 ไข้หวัดใหญ่, งูสวัด, หัดเยอรมัน, โดยไม่ทำลายHostCell *ต้านเชื้อรา_กลาก, เกลื้อน, สังคัง, ฮ่องกงฟุต, สะเก็ดเงิน-ทอง, เยื้อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อรา, ปอดอักเสบ *ต้านแบคทีเรีย_โรคท้องร่วง, โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ, ฝี, โรคระบาดทางระบบสืบพันธ์_ตกขาว *ต้านอักเสบ_หลอดลมอักเสบ, ปอดอักเสบในเด็ก, รูมาตอย, แผลหลังการผ่าตัด, แผลไฟไหม่, น้ำร้อนลวก, หนองใน, ปวดฟัน, *ขับปัสสาวะ




คุณประโยชน์ของพลูคาว
1. ฤทธิ์ระงับปวด เร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ ห้ามเลือด รักษาปริมาณของเหลวในร่างกาย

2. ฤทธิ์ขับปัสสาวะ พบสารฟลาโวนอยด์ ที่แยกได้จากใบพลูคาวเป็นสารสำคัญในการออกฤทธิ์
3. ฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ น้ำมันหอมระเหยจากการกลั่นส่วนเหนือดินของพลูคาว พบว่ามีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียอย่างแรงต่อเชื้อ Bacillus cereus และ B. Subtilis เชื้ออหิวาต์ Vibrio cholerae 0-1 และ V. Parahaemolyticus
4. ฤทธิ์ต้านไวรัส น้ำมัน